เหมือนเป็นเพื่อนสนิทแม้เป็นวัยรุ่นแล้ว “แม่เปิ้ล นลรรพรรฎ”แม่ของ “น้องอันดา กุลฑีรา” ในวันที่ลูกเริ่มเป็นสาว
รับเทศกาลวันแม่สำหรับเดือนสิงหาคม ดาราเดลี่ได้เปิดใจ “แม่เปิ้ล นลรรพรรฎ อัศวสันติชัย”แม่ของ “น้องอันดา กุลฑีรา ยอดช่าง” นักแสดงเด็กที่วันนี้เป็นสาวเต็มตัวแล้วและกำลังจะมีละครใหม่ด้วย
สำหรับ “น้องอันดา กุลฑีรา ยอดช่าง” เผยอัปเดตชีวิตวัยรุ่นและการดูแลของแม่ในช่วงที่วัยเปลี่ยนผ่าน วันนี้จึงเป็นเหมือนเพื่อนสนิท และนี่คือบางส่วนของโมเมนต์แห่งรักของคู่แม่ลูกดาราคู่นี้
อ่านข่าวต่อ:“อันดา กุลฑีรา” วันนี้โตเป็นสาวแล้ว
Q. กว่าจะมาถึงวันนี้ คุณแม่พาน้องแคสติ้ง เข้าวงการยากไหม
“แม่เปิ้ล นลรรพรรฎ” เริ่มจากการมีลูกเราก็เห่ออัพรูปน้องลงปกติที่นี้เพื่อนพ่อเค้ามาเห็นทำงานอยู่ในวงการก็เลยชวนไปเล่นโฆษณาก่อนพอต่อมาก็ได้มีโอกาสไปแคสละครเรื่องแรก “พรพรหมอลเวง”เลยทำให้น้องได้มีโอกาสเข้ามาทำงานในวงการ
Q แคสละครเรื่องแรกชอบไหม?
“อันดา กุลฑีรา” :ตอนนั้นประมาณ 5 ขวบตอนที่เล่นเริ่มแรกจริงๆจำไม่ค่อยได้แล้วว่าตัวเองรู้สึกยังไงรู้แค่ว่าตื่นเต้นพอทำมันออกมาได้แล้วก็รู้สึกเอ็นจอย พอได้เล่นละครเรื่อง “พรพรหมอลเวง” เรื่องนี้แหละที่ทำให้คนรู้จักก็ทำให้ได้เล่นละครมาเรื่อยๆและต่อมาก็เป็นเรื่อง “กลิ่นกาสะลอง” โตขึ้นมาอีกสเต็บหนึ่งก็ทำงานมาตั้งแต่เล็กๆเลยจนถึงปัจจุบัน
Q:ในระหว่างที่ลูกทำงานคุณแม่จัดการชีวิตลูกและเรื่องการเรียนยังไงบ้าง?
“แม่เปิ้ล นลรรพรรฎ” : ตอนนี้น้องอยู่ ม.ปลายแล้วพอดีน้องจบหลักสูตรGEDแล้วสามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้เลยเดี๋ยวน้องรอเข้ามหาลัยปีหน้า ตอนที่น้องเล่นละครน่าจะกำลังจะเข้า ป.1 ช่วงนั้นอยู่ในวัยเด็กพอดีโชคดีที่โรงเรียนเข้าใจและสนับสนุนทางโรงเรียนกับครูก็เลยปรึกษากันช่วยจัดตารางเรียนและกับทำงานก็โชคดีที่คุณครูค่อยตามงานให้เรื่องตารางงานกับตารางเรียนเลยไม่ค่อยชนกันเท่าไหร่
Q: คุณแม่รู้สึกเมื่อไหร่ว่าน้องเป็นดาราแล้ว
“แม่เปิ้ล นลรรพรรฎ” : เริ่มได้เล่นเริ่มแรกนี้แหละค่ะเพราะชีวิตก็เปลี่ยนเลยตอนที่เล่นโฆษณาถ่ายแบบก็จะยังไม่ค่อยรู้สึกแต่พอเล่นละครเรื่องแล้วแล้วก็ค่อนข้างที่จะประสบความสำเร็จมันก็เลยมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตบ้างนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ต่างกันเยอะ
Q:คำว่าดาราเด็กเปลี่ยนแปลงเรายังไง?
“อันดา กุลฑีรา” :เปลี่ยนเยอะเลยค่ะจากตอนแรกมีคนรู้จักภายในวงเล็กๆภายในห้องเรียนหรือว่าภายในโรงเรียนแต่ว่าพอเราเป็นดาราตั้งแต่เด็กพอไปข้างนอกก็จะมีคนรู้จักเรามากขึ้นเป็นที่รู้จักของหลายๆคนมากขึ้นในสังคม
Q:เงินที่ได้มาก้อนเอาไปทำอะไร
“อันดา กุลฑีรา” :จริงๆแล้วเราเน้นเก็บมากกว่า คือแบบถ้าอยากซื้อรางวัลให้ตัวเองก็จะซื้อเป็นของชายเช่นรองเท้าของใช้ที่เราได้ใช้จริงๆ ถ้าเราชอบอะไรคุณแม่ก็จะคอยซื้อให้เป็นรางวัลจากการทำงาน
Q:ตอนนี้น้องก็โตขึ้นมีความเปลี่ยนแปลงเป็นสาวแล้วบทบาทต่างๆคุณแม่คิดยังไง
“แม่เปิ้ล นลรรพรรฎ” :ตอนนี้ก็เหมือนไม่ได้แพลนอะไรไว้จริงจังก็ดูไปเรื่องกับโอกาสเรื่องสแกนก็จะเป็นเรื่องของบทว่าเหมาะกับวัยน้องไหมอยากแรกเราก็จะถามเค้าก่อนเราก็จะสกรีนในระดับนึงและถามเค้าว่าชอบมั้ยสนใจมั้ย
Q: วันนี้ดาราเด็กแล้วเป็นดาราสาวแล้วคุณแม่ห่วงไหม?
“แม่เปิ้ล นลรรพรรฎ” : ก็ไม่ถึงกับห่วงเพราะว่าเราอยู่ด้วยกันตลอดไม่มีช่องว่างไม่มีสเปซระหว่างกัน
“อันดา กุลฑีรา” :หนูกับแม่สนิทกันมากอยู่ด้วยกันตลอดเวลาส่วนใหญ่ก็ทำงานไม่ได้มีโอกาสไปโรงเรียน ก็จะสนิทกันมากๆคุณแม่ก็เป็นเหมือนเพื่อนสนิท อีกคนหนึ่งของหนูเลยมีอะไรก็พูดกันทุกเรื่อง
Q:คุณแม่เคยตีลูกไหม?
“แม่เปิ้ล นลรรพรรฎ” : ตอนเด็กก็มีบ้างเค้าดื้อแต่ก็ไม่เคยทำอะไรที่ทำให้เราลำบากใจเวลาที่จะโดนตีก็จะเป็นเรื่องที่ยังไม่หยุดเรื่องที่บอกซ้ำๆก็จะมีบ้างตอนเด็กจะไม่ค่อยมีวินัย
Q: เลี้ยงลูกยังไงให้เป็นดารา
“แม่เปิ้ล นลรรพรรฎ” : ไม่ได้เลี้ยงพิเศษไปกว่าคนอื่นเลยค่ะ ก็เลี้ยงแบบแม่เลี้ยงลูกปกติทั่วไป สอนการใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ แต่บังเอิญมีโอกาสโชคดีที่เค้าได้มาทำงานตรงนี้แต่ว่าการเลี้ยงลูกก็ไม่ได้ต่างจากคนทั่วไปหรอกค่ะไม่ว่าลูกจะเป็นดาราเรื่องคนธรรมดาก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิม
Q:อยากฝากอะไรถึงคุณแม่ในเนื่องโอกาสวันคล้ายวันแม่
“อันดา กุลฑีรา” : ขอบคุณคุณแม่แล้วกันทั้งขอบคุณทั้งขอโทษ ขอบคุณก่อนแล้วกันขอบคุณแม่ที่คอยดูแลแล้วการดูแลเรื่องต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือว่าเรื่องส่วนตัวของหนู ด้วยความที่หนูโตแล้วเป็นช่วงวัยรุ่นก็จะมีปัญหาในช่วงวัยรุ่นบ้างก็ขอบคุณแม่ที่อยู่ข้างข้างที่ค่อยดูแลหนู อยากขอบคุณค่ะอย่างที่บอกแล้วก็ขอโทษด้วยที่ดื้อที่ทำให้ลำบากใจหรือว่าเหนื่อยใจบ้างหนูก็จะพยายามเป็นเด็กที่ไม่ดื้อไม่ซน
“อันดา กุลฑีรา” เป็นนักแสดงเด็กเธอเริ่มเล่นละครเรื่องแรกคือเรื่องธาราหิมาลัย ในซีรีส์ชุด 4 หัวใจแห่งขุนเขา เมื่อปี พ.ศ. 2553 โดยรับบทเป็น ทิพย์ธารา หรือ น้ำ นางเอกของเรื่องในวัยเด็ก
จากนั้นจึงเริ่มเป็นที่รู้จักจากการรับบท เมริน หรือ น้องเมย์ ในละครเรื่อง “พรพรหมอลเวง” เมื่อปี พ.ศ. 2556 จากนั้นจึงมีผลงานละครเรื่อยมาโดยส่วนใหญ่เป็นผลงานละครที่ออกกับทางช่อง 3 ก่อนจะมาโด่งดังอีกครั้งในบทของ “บัวเกี๋ยง” ในวัยเด็กจากละครเรื่อง “กลิ่นกาสะลอง” เมื่อปี พ.ศ. 2562